ข้อมูลพืช


เอื้องหนวดพราหมณ์

ชื่อวิทยาศาสตร์ Seidenfadenia mitrata (Rchb.f.) Garay.

วงศ์ ORCHIDACEAE

ชื่ออื่น ๆ เอื้องกุหลาบสระบุรี เอื้องผมเงือก เอื้องผมผีพราย(กทม.)

ชื่อสามัญ The Bishop Mitre

 

หนวดพราหมณ์ เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยลำต้นยาว 3-5 เซนติเมตร รากจำนวนมากออกที่โคนต้น ลักษณะอวบยาวใบจำนวน 3-5 ใบ รูปทรงกระบอกยาวสีเขียวเข้ม ปลายเรียวแหลมเส้นผ่านศูนย์กลางส่วนกว้างสุดประมาณ 0.5 เซนติเมตร ยาว 10-40 เซนติเมตร ใบของ หนวดพราหมณ์ ห้อยลู่ลงด้านบนเป็นร่องตามยาว  ออกดอกเป็นช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ซอกใบช่อตั้งขึ้นก้านช่อยาว 13-20 เซนติเมตร ดอกของ หนวดพราหมณ์ เรียงค่อนข้างแน่น มีกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร ก้านดอกยาวประมาณ 2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงสีขาว ปลายกลีบสีม่วง รูปรีแกมรูปขอบขนาน กลีบดอกสีขาว ขอบกลีบอาจมีสีม่วงรูปรีแกมรูปไข่กลับ กลีบปากสีม่วงแกมแดง กลางกลีบสีจางกว่า กลีบรูปรีแกมรูปไข่ ปลายกลีบเว้าตื้น โคนกลีบแต่ละข้างมีติ่งขนาดเล็ก ฝาปิดกลุ่มเรณูสีม่วงเข้ม หนวดพราหมณ์ ให้ดอกช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือน เมษายน- พฤษภาคม ดอกของ หนวดพราหมณ์ มีกลิ่นหอม หากปลูกเป็นกอจะส่งกลิ่นหอมโชยพัดตามลมชื่นใจมาก

แต่เดิมหนวดพราหมณ์เป็นกล้วยไม้ที่อยู่ในสกุลของกุหลาบ Aerides และถูกเปลี่ยน เป็นสกุล Seidenfadenia ในภายหลัง หนวดพราหมณ์ เป็นกล้วยไม้เพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Seidenfadenia ซึ่งได้รับการตั้งชื่อให้เป็นเกรียติแด่ ท่าน Gunnar Seidenfaden ชาวเดนมาร์ก อดีตเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย และเป็นผู้ทำการศึกษา และตีพิมพ์ผลงานวิชาการเกี่ยวกับ กล้วยไม้ไทยอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ผลงานของท่านเป็นพื้นฐานอันสำคัญยิ่ง สำหรับโครงการพรรณพฤกษชาติประเทศไทย พืชวงศ์กล้วยไม้ ส่วนคำระบุชนิด mitrata แปลว่าที่สวมศีรษะหรือหมวกทรงสูงสำหรับพระในคริสต์ศาสนา ซึ่งอาจหมายถึงลักษณะโดยรวมของเส้าเกสรที่ดูคล้ายกับที่สวมศีรษะนั่นเอง


ในประเทศไทยเราสามารถพบกล้วยไม้ หนวดพราหมณ์ ได้ในป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ หรือป่าดิบเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 350 - 1,500 เมตร ด้วยลักษณะของใบที่ห้อยยาวลงมาจากคาคบไม้สูงมองดูราวกับเส้นผมของนักพรตที่สกปรกรุงรังจึงมีเรื่องเล่าอันน่าพิศวงต่อ ๆ กัน ว่ากันว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งที่ตกใจวิ่งออกมาจากป่าภายหลังออกหาเก็บของป่าพร้อมกับเสียงตื่นตระหนกว่าพบกับผีพลายตนหนึ่งในป่ายามพลบค่ำ ชาวบ้านต่างตื่นตกใจเกรงว่าผีพรายจะมาทำร้ายเด็ก ๆ ใน หมู่บ้านจึงได้ปรึกษาและได้ออกตามหาผีพลายตนดังกล่าวเพื่อใช้วิธีทางไสยศาสตร์เข้าจัดการ แต่เมื่อเดินทางไปยังจุดที่เคยพบกับผีพราย สิ่งที่ชาวบ้านพบมีเพียงต้นไม้ที่หักลง บนตอที่หักโค่นนั่น มีกอ ขนาดใหญ่ของต้นกล้วยไม้ที่กำลังแทงช่ออวดเบ่งดอกขนาดเล็กสีชมพูชูของมันบนก้านช่อทรงสวยงาม ราวกับช่อของดอกไม้ที่ถูกประดับประดาบนแจกันขนาดใหญ่ ใบของดอกไม้มีทรวดทรงยาวยุ่งเหยิง เมื่อถูกลมพัด ใบของมันก็พริ้วไหวไปตามสายลม มองดูราวกับเส้นผมของคนไม่ผิดเพี้ยน ข้อสงสัยเรื่องผีพรายของชาวบ้านจึงถูกไขออก กล้วยไม้ชนิดนี้จึงได้ชื่ออีกนามว่า "เอื้องผมผีพราย"

หนวดพราหมณ์ เป็นกล้วยไม้อีกชนิดที่เลี้ยงง่าย เนื่องจากชอบอากาศร้อนจึงสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย ให้ดอกได้อย่างง่ายดาย

ที่มาของเรื่องและภาพ
“เอื้องหนวดพราหมณ์” https://www.orchidtropical.com สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
“เอื้องหนวดพราหมณ์” https://www.facebook.com/ruamtawancenter สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567