ข้อมูลพืช
กระแตไต่ไม้

ชื่อสามัญ Oak-leaf fern, Drynaria, pakpak lawin, gurar,
koi hin, ashvakatri, หรือ uphatkarul
ชื่อวิทยาศาสตร์
Drynaria quercifolia (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Polypodium
quercifolium L.)
วงศ์ Polypodiaceae
ชื่อสามัญ(อังกฤษ ) oak-leaf fern, pakpak lawin, gurar, koi
hin, ashvakatri, หรือ uphatkarul)
มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ใบหูช้าง
สไบนาง (กาญจนบุรี), กระปรอก (จันทบุรี), ฮำฮอก (อุบลราชธานี), สะโมง
(ส่วย-สุรินทร์, นราธิวาส), หัวว่าว (ใต้,ประจวบคีรีขันธ์), กระปรอกว่าว
(ประจวบคีรีขันธ์,
ปราจีนบุรี,ชลบุรี), เดาน์กาโละ (มลายู-ปัตตานี), กูดขาฮอก เช้าวะนะ
พุดองแคะ
(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), กูดขาฮอก กูดอ้อม กูดไม้ (ภาคหนือ), หว่าว (ปน), กาบหูช้าง
ใบหูช้าง (กาญจนบุรี) เดาน์กาโละ
(มลายู ปัตตานี) เป็นต้น ลั
เป็นเฟินอิงอาศัยในสกุลกระแตไต่ไม้ (Drynaria) ต้นกระแตไต่ไม้
จัดเป็นไม้ล้มลุกจำพวกเฟิร์นที่เลื้อยเกาะอยู่บนต้นไม้หรือตามก้อนโขดหิน
ในที่ที่มีร่มเงาหรือแสงแดด หรือตามชายป่า ลำต้นจะทอดนอนยาวได้ถึง 1 เมตร ส่วนลำต้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3
เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ชนิดแรกได้แก่ ใบที่ไม่สร้างสปอร์
ใบจะประกบต้นตั้งเฉียงกับลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบมนหรือแหลม
ส่วนฐานใบเป็นรูปหัวใจ ใบมีความกว้างประมาณ 20 เซนติเมตรและอาจยาวได้ถึง
32 เซนติเมตร ขอบใบเว้าเป็นแฉกตื้น ๆ หุ้มอยู่บริเวณเหง้า
ผิวของใบอ่อนมีขนเป็นรูปดาว ชนิดนี้ใบจะไม่มีก้าน
และใบชนิดที่สองคือ ใบที่สร้างสปอร์
ชนิดนี้จะอยู่สูงกว่าใบที่ไม่สร้างสปอร์ และชี้ขึ้นด้านบน
ลักษณะของแผ่นใบจะเป็นรูปขอบขนานหรือเป็นรูปหอก ปลายใบเรียวแหลม
ส่วนฐานใบเป็นรูปลิ่ม ใบมีความกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร และอาจยาวได้ถึง 80 เซนติเมตร
ส่วนขอบใบมีลักษณะเว้าลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ (คล้ายกับใบสาเก) เป็นพู
เรียงตัวกันแบบขนนก ใบมีสีเขียวหม่นเป็นมัน เนื้อใบเหนียว และมีก้านใบยาวประมาณ 15-25
เซนติเมตร ที่โคนก้านใบจะมีเกล็ดสีน้ำตาลดำ
กลุ่มอับสปอร์ลักษณะเป็นรูปกลมหรือเป็นรูปขอบขนาน
เรียงเป็นสองแถวอยู่ระหว่างเส้นของใบย่อย แอนนูลัสประกอบไปด้วยเซลล์เพียงแถวเดียว
เรียงตัวในแนวตั้ง และไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์
เหง้ามีลักษณะเป็นหัวกลม
ยาว ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีน้ำตาลเข้มและมีขนยาวสีน้ำตาลคล้ายกำมะหยี่
ปกคลุมอยู่ ส่วนเนื้อในมีสีขาวและเขียว
ต้นกระแตไต่ไม้นี้จะกระจายพันธุ์อยู่ตามป่าเขตร้อน
และขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เหง้าหรือสปอร์มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศมาเลเซีย
ไทย อินเดีย ศรีลังกา พม่า จีนตอนใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฟิจิ และออสเตรเลีย ไทย ซึ่งในบ้านเราสามารถพบกระแตไต่ไม้ได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
อาจจะพบขึ้นตามต้นไม้ ตามโขดหิน ตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าพรุ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับความสูงต่ำ ๆ
ที่มาของเรื่องและภาพ
“กระแตไต่ไม้” https://medthai.com สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567.
“กระแตไต่ไม้” https://th.wikipedia.org/wiki สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567.