ข้อมูลพืช
กระแตไต่หิน

ชื่อวิทยาศาสตร์ Drynaria bonii Christ.
(ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Drynaria meeboldii Rosenst.)
วงศ์ POLYPODIACEAE
ชื่อเรียกอื่นๆ กระจ้อน, กระแตไต่ไม้, กระแตพุ่มไม้,
กระปรอกเล็ก, ฮอกกาบลม
จัดเป็นพรรณไม้จำพวกเฟิร์นเลื้อยเกาะแน่นตามก้อนหิน
โขดหิน หรือกิ่งไม้ เหง้ามีลักษณะแบน มีขนาดกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร และหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร มีเกล็ดสีน้ำตาลอมเหลืองขึ้นปกคลุมและมีขนสีน้ำตาลอยู่หนาแน่น
ใบมี
2 ชนิด รูปร่างต่างกัน คือ
ใบไม่สร้างสปอร์ หรือใบรังนก หรือใบประกบต้น หรือใบเกล็ด (nest-leaves) ซึ่งมีจำนวนมาก ออกเรียงสลับซ้อนกันปิดเหง้าไว้เกือบมิด
ลักษณะเป็นรูปวงรีหรือรูปไข่ ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ
ส่วนขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4.5-7 เซนติเมตร
และยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร
เส้นกลางใบและเส้นใบเห็นได้ชัดเจน ใบอ่อนเป็นสีเขียว ส่วนใบแก่เป็นสีน้ำตาล และอีกชนิดคือ ใบที่สร้างสปอร์ หรือใบแท้ (foliage-leaves) ซึ่งจะเป็นใบเดี่ยว ชี้ขึ้นข้างบนและอยู่สูงกว่าใบประกบต้น ใบด้านล่างส่วนที่ต่อกับก้านใบจะแผ่ออกเป็นปีก
ขอบใบจะเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบเป็นแฉกหรือพูลึก ลักษณะของแฉกเรียงแบบขนนก
ปลายพูแหลม ส่วนขอบพูหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบชนิดนี้จะมีขนาดกว้างประมาณ 20-40
เซนติเมตร และยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร
แต่ละแฉกเป็นรูปใบหอกกลับหรือรูปขอบขนานแกมใบหอก มีขนาดกว้างได้ถึง 3.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-22 เซนติเมตร
กลุ่มสปอร์จะอยู่ในอับสปอร์มีลักษณะรูปร่างค่อนข้างกลม
เรียงกระจายไม่เป็นระเบียบอยู่ระหว่างเส้นใบทางด้านหลังใบ แอนนูลัส
ประกอบไปด้วยเซลล์เพียงแถวเดียว เรียงตัวในแนวตั้ง ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์
มีเขตการกระจายพันธุ์ในมาเลเซีย
อินโดนีเซีย ออสเตรเลียเขตร้อน และพอลินีเซีย ในประเทศไทยพบขึ้นทั่วไปทางภาคเหนือ
ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งภาคตะวันตก โดยมักขึ้นบนหินหรือ
คาคบในป่าดิบแล้งและในป่าเบญจพรรณ
ที่ความสูงระดับน้ำทะเลต่ำกว่า 1,000 เมตร
ที่มาของเรื่องและภาพ
“กระแตไต่หิน” https://medthai.com สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2567.
“กระแตไต่หิน” https://botany.dnp.go.th. สืบค้นเมื่อวันที่ 14
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567.